• การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาดัชนีความไม่แน่นอนทางด้านการกำกับดูแล (RPU) ของสำนักงาน กสทช. และเพื่อศึกษาหาความสัมพันธ์ของดัชนีดังกล่าวต่อระดับอัตราผลตอบแทนส่วนเกิน ของหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแล สำหรับระเบียบวิธีการศึกษาการพัฒนาดัชนีความไม่แน่นอนเป็นไป ตามแนวทางของ Baker et al., (2016) และศึกษาความสัมพันธ์จากข้อมูลอนุกรมเวลาตั้งแต่การก่อตั้งสำนักงาน กสทช. จนถึงปัจจุบัน (2011M10 – 2022M12) ผลการศึกษา พบว่า การกำกับดูแลสะท้อนผ่านดัชนีมีแนวโน้มความไม่แน่นอนที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา และพบความสัมพันธ์ของความไม่แน่นอนด้านนโยบายต่ออัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์ในกิจการโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องในเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.10 ยืนยันผลการศึกษาตามงานการศึกษาอื่น ๆ ก่อนหน้า ขณะที่ในกลุ่มกิจการกระจายเสียงโทรทัศน์ไม่พบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้น ในการศึกษาเหตุการณ์ผลตอบแทนส่วนเกินในหลักทรัพย์ โดยพิจารณาจากกลุ่มดัชนีความไม่แน่นอนที่มีค่าสูง (High-RPU) พบว่า ความไม่แน่นอนด้านนโยบายสามารถส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนส่วนเกินของหลักทรัพย์ภาพรวมได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยสามารถสรุปได้ว่า ก่อนการเกิดเหตุการณ์ความไม่แน่นอนสูงประมาณ 6 เดือน หลักทรัพย์จะมีผลตอบแทนส่วนเกินสะสมเฉลี่ยติดลบ และกลับมามีผลสะสมเป็นบวกในช่วง 1-2 เดือนก่อนการเกิดเหตุการณ์ และเมื่อผ่านจุดการเกิดเหตุการณ์ หลักทรัพย์จะยังได้รับผลกระทบเชิงลบต่อเนื่อง โดยมีผลตอบแทนส่วนเกินสะสมติดลบกว่า 6-10 เดือน หรืออาจมีควันหลงยาวได้ถึง 13-15 เดือน
Preview Book