ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีการขยายตัวของเมืองทำให้เกิดย่านเศรษฐกิจ และย่านที่อยู่อาศัย ส่งผลให้พื้นที่สีเขียวและพื้นที่โล่งว่างในกรุงเทพมหานครมีจำนวนที่ลดลงต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกที่ได้กำหนดไว้ รวมไปถึงส่งผลให้สิ่งแวดล้อมเกิดภาวะความเสื่อมโทรมและปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ จากสาเหตุและปัญหาดังกล่าว ทางภาครัฐเล็งเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมในเมือง จึงมอบหมายสานักสิ่งแวดล้อมขึ้นมารับผิดชอบในด้านการบริหารจัดการสวนสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานคร โดยในบทความวิจัยนี้แสดงถึงแนวทางการจัดการของ
สวนสาธารณะในเมือง กรณีศึกษาสวนรมณีนาถ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสวนสาธารณะในระดับชุมชนที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชนเมืองชั้นในเขตพระนคร มีบทบาทในการให้บริการด้านกิจกรรมนันทนาการและการพักผ่อนหย่อนใจ โดยลักษณะของสวนสาธารณะที่ดีต้องมีองค์ประกอบทางกายภาพที่ทำให้รู้สึกถึงการต้อนรับกลุ่มประชาชนที่มีความเหมาะสมในทุกเพศทุกวัย และเป็นสถานที่ที่สามารถทำกิจกรรมได้อย่างหลากหลาย สถานที่มีความสะอาด ปลอดภัย และมีสิ่งดึงดูดใจ รวมไปถึงเป็นสถานที่ที่ทำให้ประชาชนมานัดพบเพื่อพบปะสังสรรค์กัน โดยการศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา
ลักษณะทางกายภาพ การจัดการพื้นที่ภายในสวนสาธารณะ และศึกษาพฤติกรรมของผู้เข้าใช้บริการเพื่อทราบถึงความต้องการและปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้ง ผู้วิจัยได้ศึกษานโยบายและการบริหารจัดการของพื้นที่ที่เป็นปัจจัยที่สำคัญสาหรับการวิเคราะห์พื้นที่ให้เกิดความเหมาะสมต่อการใช้งาน เพื่อนำไปสู่การเสนอแนะแนวทางในการจัดการและการวางแผนพัฒนาสวนรมณีนาถให้เกิดความเหมาะสมแก่ลักษณะของการเข้าทำกิจกรรมของผู้เข้าใช้บริการในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยจากผลการศึกษาสามารถสรุปได้ว่าสวนรมณีนาถมีการบริหารและจัดการพื้นที่ในรูปแบบของระบบราชการ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักสิ่งแวดล้อม ภายในพื้นที่สวนมีกิจกรรมที่รองรับผู้ใช้บริการได้อย่างหลากหลาย และมีการให้บริการด้านการอานวยความสะดวกได้อย่างครบครันและตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยกิจกรรมที่พบภายในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นกิจกรรมนันทนาการประเภทการออกกาลังกาย และรองลงมาเป็นการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ โดยผู้เข้าใช้บริการมีความหลากหลายของทุกช่วงวัย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการเข้าทำกิจกรรมของผู้ใช้บริการในเขตพระนคร ทั้งนี้ภายในพื้นที่ยังคงพบปัญหาในการให้บริการด้านต่างๆ เช่น เส้นทางวิ่งที่ไม่เพียงพอต่อผู้ใช้บริการ การซ้อนทับของพื้นที่ที่ทำกิจกรรม ระบบส่องสว่างที่ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ เก้าอี้หรือม้านั่งที่ไม่เพียงพอ และพื้นที่สำหรับจอดรถ เป็นต้น ดังนั้นในการเกิดปัญหาและข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่ควรได้รับการดำเนินการและปรับปรุง พร้อมทั้งจัดทำโครงการต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการลดการเกิดปัญหาต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ด้านการซ้อนทับของพื้นที่ในการทำกิจกรรม อาจจะมีการดูแลจัดระเบียบ และแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ในการทำกิจกรรมให้ชัดเจน เป็นต้น อีกทั้ง ในข้อเสนอแนะด้านการจัดการ
พื้นที่และข้อเสนอแนะโครงการในด้านต่าง ๆ สามารถนำไปเป็นแนวทางในการลดปัญหาและข้อจำกัดที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่ได้ และอาจส่งผลให้พื้นที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการผู้เข้าใช้บริการในปัจจุบันและในอนาคต
MARC Information