จริงหรือไม่? ขนาดออกไปสูบบุหรี่หน้าบ้าน หลังบ้าน หรือริมระเบียง เพราะไม่อยากให้ควันบุหรี่ทำร้ายคนที่อยู่ในบ้าน แต่พวกเขาก็ได้รับอันตรายอยู่ดี
คำตอบคือ “จริง” แต่พูดแค่นี้ อย่าเพิ่งรีบเชื่อ เราจะพิสูจน์ให้เห็น โดยเราได้รับความร่วมมือจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ให้ยืมเครื่องวัดค่าฝุ่น ที่สามารถตรวจจับ PM2.5 และอนุภาคของควันบุหรี่ได้
จากนั้นเราลองวางเครื่องวัดไว้ในห้องที่ก่อนหน้านั้นได้เปิดเครื่องฟอกอากาศเพื่อปรับให้สภาพอากาศอยู่ในระดับปกติ และให้มีคนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงด้านนอก โดยแง้มประตูไว้เล็กน้อย
ผลการตรวจของเครื่องพบว่า ค่าฝุ่นอันตรายค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมาทีละน้อย จนเกิน 50 ในที่สุด
แสดงว่า ควันบุหรี่สามารถเล็ดลอดเข้ามาในห้องได้
ถัดไป อยากรู้ว่า อนุภาคอันตรายของบุหรี่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมนานแค่ไหน โดยครั้งแรกลองจุดบุหรี่หนึ่งมวนในห้องปิด และครั้งที่สอง ลองจุดบุหรี่หนึ่งมวนในห้องที่เปิดประตูสองบานทิ้งไว้ให้อากาศระบาย
เราพบว่า ในห้องปิด ค่าฝุ่นจะลดลงช้ามาก แม้ว่าเวลาผ่านไปเกินกว่าชั่วโมง ค่าฝุ่นก็ยังไม่ลงมาสู่ระดับปกติ ขณะที่การเปิดประตูสองบาน ยังต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง กว่าค่าฝุ่นจะลดลงต่ำกว่าระดับอันตราย
ในประเด็นนี้ เรายังได้ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประกิจ วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ มาช่วยอธิบายเพิ่มเติมว่า
ส่วนใครที่ไม่แน่ใจว่า ควันบุหรี่มีอันตรายขนาดไหน ศาสตราจารย์นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบ ได้เตือนไว้ว่า
“ควันบุหรี่มีสารเคมีกว่า 7,000 ชนิด เป็นสารพิษ 250 ชนิด และสารก่อมะเร็งกว่า 70 ชนิด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายทั้งระยะสั้นและระยะยาว...ระยะสั้น สารเคมีในบุหรี่เมื่อเจอกับความชื้นของร่างกายจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นกรด ทำให้ระคายเคืองตาถ้าควันเข้าตา และทำให้เนื้อปอดอักเสบ ส่วนผลกระทบระยะยาวก็คือเป็นต้นเหตุของโรคอันตรายต่าง ๆ สารพัด เช่น โรคปอด โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง”
จากการทดลองและคำยืนยันของคุณหมอ เราจึงเชื่อว่า บุหรี่อันตรายกว่าที่คิด ไม่ว่าจะสูบที่ไหน เพราะควันบุหรี่ทั้งลอยไกล ทะลุทะลวง และอึดทน ดังนั้นเพื่อสุขภาพตัวเอง และคนที่คุณรัก ดีที่สุดคือหยุดสูบ
หากใครอยากเลิกสูบบุหรี่ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองโทรปรึกษาสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 โทรฟรีทุกเครือข่าย
ขอขอบคุณแหล่งที่มา