นับเป็นมวยถูกคู่จริง ๆ ในสังเวียน 5G สำหรับเอไอเอส และกลุ่มทรู เพราะต่างฝ่ายต่างเร่งเกมบุกเต็มสูบแบบไม่มีใครยอมใครทั้งในแง่การปูพรมขยายเครือข่าย การจับมือกับพันธมิตรในภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ผู้ผลิตอุปกรณ์, สถาบันการศึกษา และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในการนำเทคโนโลยี 5G ไปประยุกต์ใช้ และทดสอบ “ยูสเคส” ที่จับต้องใช้งานได้จริงจัง
ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทั้งเอไอเอส และทรูมูฟ เอช ต่างประกาศว่า เครือข่ายการให้บริการ 5G ของทั้งคู่ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ในทั้ง 77 จังหวัดแล้ว
ล่าสุดทั้งคู่ไปจ่ายเงินค่าคลื่น 26 GHz ซึ่งแถบคลื่นนี้เป็นช่วงคลื่นความถี่สูง ตอบโจทย์การใช้งานของภาคอุตสาหกรรม
นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่ากลุ่มทรูให้ความสำคัญกับการปักธงในการเป็นผู้นำเทคโนโลยี 5G ต่อเนื่อง
นับตั้งแต่เข้าประมูลคลื่นเมื่อปีที่ผ่านมาก็เร่งขยายเครือข่ายเร็วที่สุดด้วยการใช้ 2 คลื่นหลัก ได้แก่ คลื่น 2600 MHz และ 700 MHz ปูพรมขยายบริการทั่วประเทศทำให้พื้นที่บริการไม่ได้มีเฉพาะหัวเมืองหลัก 77 จังหวัดทั่วประเทศแต่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลยังครอบคลุมมากถึง 98% ของประชากร มากกว่าคู่แข่งรายอื่นอย่างแน่นอน
ดังนั้นจากนี้จะเร่งทำตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้า พร้อมไปกับการพัฒนาบริการเชิงลึกกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G
โดยตั้งเป้าว่าในสิ้นปีนี้จะเพิ่มฐานลูกค้า 5G ให้ได้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านราย จากที่ปัจจุบันมีลูกค้าใช้สมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G อยู่แล้วเกือบ 5 แสนเครื่อง แต่มีการใช้งานแพ็กเกจ 5G ราว 50% หรือ 2.5 แสนราย สิ่งที่ต้องทำต่อคือ
ดึงกลุ่มที่มีเครื่องอยู่แล้วให้มาใช้แพ็กเกจ 5G สร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มเติมด้วยการนำเสนอแพ็กเกจที่ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และสร้างประสบการณ์ในการใช้งานที่เหนือกว่า 3G/4G โดยเฉพาะด้านคอนเทนต์ ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มทรูมีความพร้อมมากกว่าคู่แข่ง
“เรามั่นใจว่าเรื่องคอนเทนต์ดิจิทัล เรามีประสบการณ์มากที่สุด และทำมาก่อนใคร และจะใช้จุดนี้ยกระดับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ด้วยศักยภาพของ 5G ให้ลูกค้าสัมผัสได้ชัดเจน ในแง่การทำตลาดจะเดินเกมรุกตลอดทั้งปี โดยใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้าที่มีในแง่การสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย และจัดแพ็กเกจให้ตรงกลุ่มและตรงความต้องการ”
นายพิรุณกล่าวด้วยว่า ต้องยอมรับว่าลูกค้ากลุ่มแรกที่เข้ามาใช้ 5G ไม่ได้เกิดจากการประสบการณ์ในการใช้งาน แต่เพราะเครื่องรุ่นใหม่เปิดตัว เช่น ไอโฟน 12 แต่ปัจจุบันแม้จะมีเครื่องหลากหลายรุ่นและหลากหลายแบรนด์ให้เลือกมากขึ้นแล้ว แต่ระดับราคาถูกสุดยังอยู่ในหลักหมื่นต้น ๆ
แต่คาดว่าไม่เกินกลางปีจะเริ่มมีเครื่องราคาราว 5 พันบาทมากขึ้นทำให้มีลูกค้าที่ใช้เครื่อง 5G เพิ่มขึึ้นด้วย แต่จะเปลี่ยนแพ็กเกจหรือไม่ ต้องจูงใจด้วยประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีกว่าเดิม เพราะราคาแพ็กเกจรายเดือนสูงกว่า 3G และ 4G
“แพ็กเกจ 5G ต่ำสุดจะอยู่ที่ 699 บาท/เดือน สูงกว่า 3G/4G หรือใน “อันลิมิเต็ด แพ็กเกจ” สูงสุดของ 4G อยู่ที่ 1,099 บาท/เดือน แต่ใน 5G จะขยับไปที่ 1,199 บาท/เดือน เป็นต้น ในมุมของผู้ให้บริการ 5G
ทำให้รายได้ต่อเลขหมายต่อเดือนในบริการโพสต์เพดขยับขึ้น ซึ่งการจะทำให้ผู้บริโภคยอมจ่ายแพงขึ้นก็ต้องมาจากประสบการณ์ในการใช้งานที่เหนือกว่าเทคโนโลยีเดิม ซึ่งมั่นใจว่าเรามีความพร้อมที่จะโชว์ศักยภาพในการเป็นผู้นำ 5G ได้ทั้งในแง่การมีบริการที่ครบวงจรในเครือทรู และการมีพันธมิตรอย่างไชน่าโมบายที่มีประสบการณ์ด้าน 5G”
ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในปีนี้ว่า มีงบประมาณ 25,000-30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการขยายโครงข่ายบนเทคโนโลยี 4G และ 5G ราว 21,000-27,000 ล้านบาท และบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต 3,000-4,000 ล้านบาท
รวมไปถึงการมุ่งมั่นผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยี 5G ไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางทั้งในภาคธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งการเติบโตของการใช้งานมีหลายองค์ประกอบร่วมกัน ทั้งโครงข่าย, ดีไวซ์ และการพัฒนาโซลูชั่นให้เหมาะกับการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
“ตั้งแต่ได้คลื่น 5G มาเมื่อปีที่แล้ว เราเดินหน้าขยายโครงข่ายจนเปิดให้บริการครบ 77จังหวัดได้เป็นรายแรก โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ครอบคลุม 100% และปีนี้ยังเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับการเดินหน้าประเทศ
และเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนที่ต้องผนึกกำลังเสริมความแข็งแกร่งเพื่อให้เราฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจจากโควิดไปด้วยกันให้ได้ ซึ่งเอไอเอสในฐานะผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ยึดมั่นในบทบาทนี้”
ล่าสุดได้ร่วมกับเอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์(SNC) ผู้ผลิตกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ EEC นำเทคโนโลยี 5G มาเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตในโรงงาน โดยที่ผ่านมาได้ร่วมทดลองการใช้งานบนคลื่น 26 GHz แล้ว พร้อมเป็นต้นแบบของการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยสู่การเป็น digital industrial
ก่อนหน้านี้ นายวัชรพงศ์ ลีโทชวลิต ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า ในปีนี้ได้ตั้งเป้าลูกค้า 5G ไว้ที่ 1 ล้านรายเพิ่มจาก 2.4 แสนรายในสิ้นปี 2563
นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส เสริมว่า ปัจจุบันมีคลื่นความถี่ถึง 1,420 MHz ครอบคลุมทุกย่านความถี่ ทั้งความถี่ต่ำกลาง และสูง สามารถให้บริการได้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งผู้บริโภคและอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ด้าน นายสมชาย งามกิจเจริญลาภ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอ็นซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ร่วมกับเอไอเอสนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ในโรงงานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ใน 3 ส่วน ได้แก่ 1. 5G AGV เป็นการใช้ 5G ควบคุม และสั่งการรถ AGV (automated guided vehicles) สำหรับการขนส่งชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับสายการผลิตภายในโรงงาน และระหว่างโรงงาน
2. 5G Smart Robot ใช้ 5G ควบคุมสั่งการในส่วนของแขนกลหุ่นยนต์ (robot) ที่ใช้งานในส่วนสายการผลิตที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบที่ 3 คือ 5G Active Dashboard ประยุกต์ใช้งาน 5G ในการเชื่อมต่อระหว่าง server และ machine เพื่อมอนิเตอร์สายการผลิตได้แบบเรียลไทม์
ดร.สมชัย ไทยสงวนวรกุล ประธาน EEC Industrial Forum กล่าวว่า “นักลงทุนส่วนใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุนในไทยมีเทคโนโลยีพร้อมแล้ว แต่ไทยยังขาดโซลูชั่นทำให้หลายรายก็ยังไม่ตัดสินใจเข้ามา เชื่อว่าการลงทุน 5G ของเอไอเอสจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนของภาคอุตฯ ในหลายมิติ ทั้งทำให้ธุรกิจไทยแข่งขันบนตลาดโลกได้ ดึงความเชื่อมั่นให้ลงทุนต่อ ไม่ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :